เดินเล่นรอบๆสถานีนาโกย่า!

จนกระทั่งบทความล่าสุด เราเน้นไปที่ย่านซากาเอะ แต่จากวันนี้เราจะไปดูที่รอบๆสถานีนาโกย่าบ้าง! แล้วซากาเอะกับนาโกย่าแตกต่างกันยังไง? ถ้าอยากจะเข้าใจง่ายๆ เปรียบเทียบกับโตเกียว รอบๆนาโกย่าก็คือมารุโนะอุจิ ส่วนย่านซากาเอะคือย่าน คาบุกิโจที่ชินจูกุในโตเกียว
*รูปภาพพวกนี้เป็นรูปที่แคทถ่ายเองเลยน้า

  สถานีนาโกย่าที่เราจะแนะนำครั้งนี้ มีความสวยงามและออกแบบให้ดูมีความเป็นผู้ใหญ่ถ้าเทียบกับมารุโนะอุจิ และมีสถานที่หลายที่ที่ดูทันสมัย ไม่เพียงแต่ช้อปปิ้งเท่านั้นแต่เพื่อพักผ่อนสั้นๆด้วย สำหรับใครที่ไม่เคยมาที่นาโกย่า และผู้ที่พักโรงแรมในนาโกย่า ลองดูข้อมูลที่น่าสนใจนี้ดูสิ!

 

รอบนี้เรารีบออกจากย่านซากาเอะและไปถึงรอบๆสถานีนาโกย่าตอนเช้า ด้วยความที่เช้าเกินไปก็เลยยังไม่สามารถเช็คอินที่โรงแรมได้ ก็เลยวางกระเป๋าแล้วออกมา
สถานที่แรกที่ไปก็คือตลาดยานางิบาชิ คล้ายๆกับตลาดปลาสึกิจิที่โตเกียวเลย มีทั้งปลาสด หอยนางรม และปูวางขายอยู่ โดยปกติแล้วนี่เป็นตลาดที่คึกคักเลยทีเดียว แต่ว่าช่วงนี้ก็จะเงียบๆหน่อยเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
อีกทั้ง อาหารทะเล โดยเฉพาะหอยนางรมนี่ ดูตัวใหญ่และน่ากินมากๆ!

  เราว่าถ้าจะให้เห็นภาพชัดๆไปดูวิดิโอกันดีกว่า ฉะนั้นอย่าเพลาดวิดิโอที่เราไลฟ์สดที่ Redlovetree นะ!

https://www.facebook.com/272695882763592/videos/1823964411118331

 

เรายังไม่ได้ทานข้าวเช้าเลย เราเลยไปทานอาหารเช้าเล็กๆที่ Moning Café Lyon เป็นหนึ่งในร้านอาหารเช้าชื่อดังในนาดกย่า และก็มีคนดังหลายๆคนมาที่นี่ด้วย
Morning คืออะไร? ถ้าอยากรู้ลองไปเช็คในบล็อก Nagoya x Food ดูสิ

http://shopping.nagoya-info.jp/food/morning/

  อย่างไรก็ตามรูปนี้ถ่ายหลังจากทานอาหารไปแล้ว แต่ก็ใช้เวลาในการเข้าร้านเหมือนกันเพราะมีแถวยาวมากๆก่อนเข้าร้าน! เราเลยสั่ง Morning ที่ทางร้านได้แนะนำมาทันที!

 

นี่คือขนมปังโกกุระที่โด่งดัง เมื่อมองครั้งแรก จะมีถั่วแดงโกกุระอยู่บนขนมปัง ดูแล้วน่าจะหวานๆ แต่พอได้ทานจริงๆกลับไม่หวานขนาดนั้น พอได้ทานแล้วเรารู้สึกอิ่มอร่อยมากๆจนไม่ต้องทานมื้อกลางวันเลย
เราสั่งเครื่องดื่มเป็นน้ำส้ม แต่ถ้าจะสั่งกาแฟด้วยก็ได้นะ สำหรับเครื่องดื่มยามเช้าจะไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ดังนั้นสบายกระเป๋าตังค์สุดๆ

  ในขณะที่เดินเล่นหลังอาหารเช้า ก็ได้ไปเดินเล่นในที่ตลาดที่ชื่อว่าเอนโดจิ แต่ว่าเราลืมถ่ายรูปมา…. ย่านตลาดเอนโดจิก็มีแนะนำในประเภทช้อปปิ้งนะ ลองไปดูสิ!

http://shopping.nagoya-info.jp/shopping/endoji-shotengai/

 

หลังจากเดินเล่นรอบๆตลาดเอ็นโดจิ เราก็ไปตามหาอะไรใหม่ๆดู และได้เจอโรงแรมที่ชื่อว่า Nine Hours Nagoya และได้เจอ Glitch Coffee! พวกคุณอาจจะไม่รู้จัก Glitch Coffee แต่ว่ามันเป็นคาเฟ่ที่โด่งดังมากๆในหมู่เด็กผู้หญิงในญี่ปุ่น เป็นจุดแฟชั่นทันสมัยที่จะมีให้เห็นใน Instagram บ่อยๆ ซึ่งที่นี่คุณจะสามารถเพลิดเพลินไปกับกาแฟแท้ๆในร้านที่ดูมีสไตล์ แต่ว่ารสชาติล้ำเกินคำบรรยาย เหมาะกับผู้หลงใหลในกาแฟแท้ๆจริงๆ ไม่เพียงแค่ชอบอะไรเก๋ๆเท่านั้น



ครั้งนี้เราได้ถ่ายรูปมาด้วย! คุณจะได้รับโน้ตสำหรับรสชาติกาแฟที่ได้ด้วย ลองอ่านดูก่อนทานนะ
อย่างไรก็ตาม เราได้สั่ง GEISHA จากเอธิโอเปีย หนึ่งในกาแฟที่แพงที่สุดในโลก มีรสชาติเปรี้ยวๆเหมือนมีมะนาว มีความหวานเหมือนช็อคโกแลต และกลิ่นหอมดอกไม้ ละเอียดอ่อนมากๆ!
ราคาของกาแฟจะเปลี่ยนไปขึ้นอยู่กับสถานะสินค้าด้วย ดังนั้นขอให้เลือกตามโน้ตรสชาติ

  เราคิดว่ามีผู้คนมากมายไปเที่ยวนาโกย่า เราจึงไปเดินตรงข้ามกับทางออกชินคันเซ็น แต่สำหรับครั้งแรก เราจะแนะนำเกี่ยวกับทางออกชินคันเซ็นนิดๆหน่อยๆ



คุณจะเห็น Bic Camera ทันทีเมื่อออกจากรถไฟชินคันเซ็น นี่เป็นหนึ่งในร้านที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคชูบุ และเป็นที่แนะนำหากจะซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นของฝากจากญี่ปุ่น!
ถ้าคุณได้ไปที่คินเท็ตซึ จะมีที่ที่ชื่อว่า Yamada Denki ซึ่งทั้งสองที่เป็นร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าที่โด่งดังในญี่ปุ่น เป็นความคิดที่ดีที่จะเลือกที่ๆใกล้กับโรงแรมที่คุณอยู่นะ

  เดินต่อไปตามทางออกชินคันเซ็น มีร้านอาหารอยู่มากมาย แต่จุดเด่นจะอยู่ที่ร้าน Furaibo ซึ่งเป็นร้านปีกไก่ เป็นร้านอาหารที่มีปีกไก่นาโกย่าอร่อยๆและเป็นที่โด่งดังและชื่นชอบไม่เพียงแต่จากนักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่จากท้องถิ่นด้วยเช่นกัน
และยังมีร้านที่ขายของเกี่ยวกับอนิเมะด้วย ถ้าสนใจก็ลองเดินไปทางด้านหลังดูสิ!

 

อย่างไรก็ตาม เราอยากจะแนะนำโรงแรมที่เราได้พักครั้งนี้ เราพักที่ THE ROYAL PARK CANVAS Nagoya ในครั้งนี้ มันอาจจะไม่เข้ากับผู้ที่ออกจากชินคันเซ็นและอยู่แค่รอบๆนาโกย่า แต่ที่นี่เป็นโรงแรมที่เหมาะกับผู้ที่จะไปเที่ยวชมวิวมากๆ โดยเฉพาะที่นี่เป็นโรงแรมที่สะดวกที่สุดในการเดินทางไปตลาดยานางิบาชิที่เราได้แนะนำไปตอนเช้า แล้วก็เราคิดว่าโรงแรม THE ROYAL PARK ซีรี่ส์ Canvas ก็ราคาค่อนข้างโอเค เราเลยคิดว่าไม่น่าต้องห่วงเรื่องราคามากนัก

 



ห้องจะเป็นแบบนี้ โดยห้องจะเล็กกว่าห้องปกติชอง THE ROYAL PARK แต่ก็ไม่เป็นเรา เพราะว่าเราพักคนเดียว

  ไม่เป็นไรเนอะ
เรารู้ว่าทุกคนกำลังจะพูดอะไร
……………….
ไม่มีประตูห้องน้ำ!!!
เราเข้าห้องแล้วหาประมาณ 5 นาที แต่ก็ไม่เจอประตูห้องน้ำซักที 555
อย่างไรก็ตาม เฉพาะห้องเดี่ยวเท่านั้นที่ไม่มีประตู แน่นอนว่าห้องปกติจะมีประตูห้องน้ำอยู่แล้ว ตอนแรกก็คิดว่าจะรู้สึกแปลกๆที่เข้าห้องน้ำไร้ประตู แต่สักพักก็ชินแล้วล่ะ

  เดินรอบๆนาโกย่าครั้งนี้เป็นไงมั่ง?
ตอนกลางคืนเราก็ช้อปปิ้งอย่างสนุกสนานที่ Sun Road ซึ่งไม่ไกลจากโรงแรม แต่คุณสามารถช้อปปิ้งอย่างสนุกสนานในที่ๆหลากหลายรอบๆสถานีนาโกย่า เช็คบทความ Nagoya x Shopping เพื่อค้นหาที่ๆคุณจะช้อปปิ้งได้อย่างเต็มที่!

   
บทความที่เกี่ยวข้องคลิกที่นี่เพื่อดูบทความที่เกี่ยวข้องที่แนะนำ